เล่นดนตรีจำเป็นต้องอ่านโน้ตเป็นไหม?
หลายท่านอาจจะคงสงสัยว่าเล่นดนตรีจำเป็นต้องอ่านโน้ตเป็นหรือไม่ เพราะอาจจะเคยหยิบเครื่องดนตรีขึ้นมาเล่นแล้วก็รู้สึกว่า “เอ๊ะ เราก็เล่นได้นิน่า” หรือเด็กบางคนไม่ชอบอ่านโน้ตเลย เวลาอาจารย์เอาโน้ตขึ้นมาให้อ่านก็จะไม่ทำบ้าง ขอเข้าห้องน้ำบ้าง จึงทำให้ผู้ปกครองเกิดคำถามว่าถ้าเกิดเล่นดนตรีแล้วไม่อ่านโน้ตสามารถทำได้หรือไม่ จริงๆถ้าไม่อ่านโน้ตสามารถเล่นดนตรีได้อยู่แล้วแน่นอนครับ เพราะถ้าย้อนกลับไปสมัยที่ดนตรีกำเนิดเราจะพบว่าจริงๆแล้วก่อนที่จะเกิดการบันทึกโน้ตขึ้น คนเราเล่นดนตรีจากการเลียนแบบเสียงธรรมชาติ หรือเล่นดนตรีเพราะเกี่ยวกับศาสนาบูชาเทพเจ้า เครื่องดนตรีชิ้นแรกของมนุษย์เราก็คือเสียงร้องนั่นเองครับ แต่พอเริ่มมีการร้องรำทำเพลงมากขึ้นจึงมีการบันทึกโน้ตขึ้น เราจะเห็นได้ว่ามีการบันทึกโน้ตเกิดมาหลังจากที่ดนตรีได้กำเนิดมาแล้ว เพราะฉะนั้นทฤษฏีดนตรีต่างๆ ที่เราเรียนกันอยู่ทุกวันนี้เกิดจากการวิเคราะห์ จัดระเบียบ สิ่งที่เป็นนามธรรม ให้ออกมาเป็นรูปธรรมสามารถอธิบายเรื่องราวต่างๆ ทางดนตรีให้เป็นสิ่งที่จับต้องได้ แต่เราเกิดมาในยุคนั้นผมก็บอกเลยว่าโน้ตก็อาจจะไม่จำเป็นในการเล่นดนตรี แต่ถ้าเราเกิดในยุคที่มีการวิวัฒนาการเกิดขึ้นมากมาย ดนตรีก็ได้รับการพัฒนามาจากสมัยอดีต จึงทำให้การศึกษาดนตรีมีระบบระเบียบมากขึ้นทำให้เกิดทฤษฏีต่างๆ มากมาย การศึกษาดนตรีในสมัยนี้จึงเห็นได้ว่าเวลาจะเรียนอะไรจะต้องมีตำราต่างๆ มาประกอบการเรียนด้วย แม้กระทั้งเด็กเล็กก็มีตำราเรียนที่ปรับให้เหมาะสมกับวัย เช่น มีรูปการ์ตูนให้ดึงดูดความสนใจ หรือรูปภาพต่าง ๆ เป็นต้น แต่ถ้าถามว่าแล้วถ้าในยุดนี้ศึกษาดนตรีโดยไม่ต้องใช้โน้ตได้ไหมละ ก็คงต้องตอบว่าได้ แต่กระบวนการเรียนรู้ก็จะแตกต่างออกไป เช่น เราอาจจะต้องเรียนโดยที่อาจารย์ทำให้ดูแล้วทำตาม, ฟังเพลงแล้วเลียนแบบเพลงให้เหมือนที่สุด, หรือดูวีดีโอคนที่มาสอนในยูทูปแล้วนำมาฝึกเอง เป็นต้น ก็สามารถทำได้ เท่านี้เราก็สามารถเล่นดนตรีได้แล้ว คราวนี้ผมจะมาพูดว่าแล้วถ้าเราเรียนโน้ตละ กระบวนการเรียนรู้จะเป็นอย่างไรบ้าง ผมชอบยกตัวอย่างอธิบายผู้ปกครองหรือคนที่มาถามผมว่า เล่นดนตรีจำเป็นต้องอ่านโน้ตไหม? ผมก็จะตอบว่า เหมือนกับเวลาคนพูดภาษาอังกฤษบางคนพูดได้แต่อ่านภาษาอังกฤษไม่ออก เค้าสามารถใช้ชีวิตในสังคมได้ พูดคุยสื่อสารกับชาวต่างชาติได้ แต่พอถึงจุดหนึ่งคนเหล่านี้มักจะเจอทางตันในบางสถานการณ์ เช่น ต้องอ่านฉลากยาที่ติดไว้ด้านข้างซอง, เวลาไปเที่ยวเมืองนอกต้องอ่านป้ายต่างๆ เวลาเดินทาง, บางคนต้องติดต่องานที่เป็นทางการ, หรือเขียนอีเมลตอบกับค้าเวลาต้องลงเจรจาเรื่องสำคัญๆ เป็นต้น คราวนี้พอจะเห็นภาพไหมครับ ผมกลับมาที่เรื่องดนตรี ถ้าคนที่เล่นดนตรีได้แต่อ่านโน้ตไม่เป็น ปัญหาที่เกิดหลักคือ 1.เล่นได้แต่ไม่เข้าใจในสิ่งที่เล่นว่ามันคืออะไร 2.ไม่สามารถอธิบายได้ว่าที่เล่นอยู่นั้นคืออะไร 3.เวลาซ้อมจะใช้เวลานานกว่าคนที่อ่านโน้ตเป็น (แต่บางคนอัจฉริยะและมีพรสวรรค์มากก็สามารถเล่นได้ภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว แต่ตั้งแต่ผมศึกษาดนตรีมาพบเจอคนประเภทนี้น้อยมากครับ) 4.ไม่สามารถสอนคนอื่นได้ (จริงๆก็สอนได้แต่ก็จะสอนแบบที่เข้าใจในแบบของตัวเอง) 5.ไม่สามารถเล่นร่วมกับวงขนาดใหญ่ได้ เพราะถ้าเป็นวงขนาดใหญ่ทุกคนต้องอ่านโน้ตเป็นไม่งั้นจะจัดการลำบากมาก 6.เมื่อศึกษาดนตรีไปถึงขึ้นสูงขึ้นเรื่อยๆจะเจอปัญหาในเรื่องความเข้าใจ 7.และอื่นๆ อีกมากมาย ผมอาจจะเกริ่นเรื่องการอ่านโน้ตจากสมัยประวัติศาสตร์ว่าคนเราเรียนรู้ดนตรีก่อนที่จะเกิดการบันทึกโน้ตขึ้น แต่ถ้าคุณเกิดสมัยประวัติศาสตร์ก็คงจะไม่ซีเรียสอะไรเรื่องการอ่านโน้ต แต่ถ้าคุณเกิดในสมัยนี้ผมคิดว่าอย่างไรก็แล้วแต่การอ่านโน้ตเป็นเรื่องสำคัญมากๆ เพราะจะทำให้การเรียนรู้ง่ายขึ้น เร็วขึ้น สามารถพัฒนาไปในระดับสูง สร้างองค์ความรู้ใหม่ๆ สร้างสรรค์ผลงานได้อย่างอิสระ สามารถเป็นอาจารย์สอนผู้อื่นได้ เล่นร่วมกับวงขนาดใหญ่หรือเล่นร่วมกับนักดนตรีเก่งๆได้ในอนาคต และอื่นๆอีกมากมาย บางคนอาจจะมีความคิดว่าการเรียนโน้ต อาจจะเป็นเรื่องที่ดูเข้าใจยาก ดูเป็นวิชาการ แต่จริงๆแล้วเรื่องโน้ตกับเรื่องการปฏิบัติสำหรับผมแล้วอยู่ที่เทคนิคการสอนด้วยครับ จริงๆเราสามารถสอนลูกศิษย์ให้รักการอ่านโน้ต รู้สึกสนุกไปกับการอ่านโน้ตได้ อยู่ที่เทคนิคของอาจารย์แต่ละคน สำหรับผมนักเรียนของผมทุกคนสามารถอ่านโน้ตได้ทุกคน และอ่านคล่องทุกคน เมื่อสมัยก่อนตัวผมเองเริ่มเรียนตีกลองชุดตั้งแต่ 6 ขวบ ผมเป็นคนขี้เกียจมาก ตัวอ้วนด้วย เวลาเรียนกลองทุกครั้งพอเจอโน้ตก็เหมือนจะปิดกั้นตัวเองก่อนเสมอ เพราะฉะนั้นผมจึงรู้ว่าจริงๆแล้วที่เด็กไม่อยากอ่านโน้ตกันเป็นเพราะอะไร เด็กบางคนไม่อยากอ่านโน้ตเพราะบางทีเห็นโน้ตแล้วตาลาย ไม่เอาดีกว่า แต่การสอนอ่านโน้ตสำหรับผมถ้าโน้ตยากมากๆ ผมจะย่อยโน้ตออกเป็นส่วนๆ ตามความเหมาะสมกับกระบวนการเรียนรู้ของเด็กแต่ละคน และค่อยๆไปอย่างช้าๆ มีการฝึกอ่านโน้ตแบบฉับพลัน (Sight Reading) และการเขียนโน้ตให้ก่อนขึ้นเพลงใหม่ที่นักเรียนแต่ละคนเลือกมา แต่ก็ใช่ว่าผมจะเป็นคนที่ซีเรียสเรื่องการอ่านโน้ต เพราะบางทีบางแบบฝึกหัดหรือบางเพลง อาจจะสอนแบบไม่ต้องใช้โน้ตจะง่ายกว่า ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และความเหมาะสมนั้นๆ ผมก็จะมีเทคนิคและวิธีการสอนแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับเด็กแต่ละคน และหัวข้อเรื่องที่จะต้องสอน สรุปเลยก็คือการอ่านโน้ตนั้นมีประโยชน์มากในยุดคนี้ อย่างน้อยครวจะอ่านเป็นถึงอ่านไม่คล่องก็ครวจะรู้ว่าโน้ตไหนเรียกว่าอะไร มีวิธีการเล่นอย่างไร สำหรับผมจะจัดการออกแบบ Couse Syllabus ครวออกแบบให้กับเด็กแต่ละคนตามความเหมาะสม จากเป้าหมายของเด็กแต่ละคน เพราะผมเชื่อว่ากระบวนการเรียนรู้ของเด็กแต่ละคนแตกต่างกันไป สำหรับท่านใดที่อยากรู้เรื่องโน้ตหรืออยากเรียนกลองลองเข้ามาทดลองเรียนที่โรงเรียน Ongartdrums School ก่อนได้นะครับ จะมีการวัดระดับ พูดคุย เพื่อออกแบบ Couse Syllabus ให้เหมาะสมกับนักเรียนแต่ละคน หรือถ้ามีปัญหาข้อสงสัยก็ติดต่อเข้ามาทางช่องทางของผมได้นะครับ ผมยินดีตอบทุกคำถามครับ แล้วพบกันนะครับ แล้วถ้าชอบหรือคิดว่าบทความของผมมีประโยชน์ฝากกด Like & Share ให้ผมด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ ครูเอิร์ธ Ongartdrums School Call : 086-066-5005 Line ID : earthbandbkk Facebook : ongartdrums Instagram : ongartdrums 16.4.21
0 Comments
|
ครูเอิร์ธอยากให้ความรู้ด้านกลองแก่เด็ก ผู้ปกครอง บุคคลทั่วไป เพื่อให้เกิดการกระบวนการเรียนรู้ที่เหมาะกับเด็กแต่ละคน |