กลองชุดกับกลองไฟฟ้าควรเลือกซื้อแบบไหนดี??? สิ่งที่สำคัญมากๆสำหรับการเล่นดนตรีหรือการเรียนตีกลองก็คืออุปกรณ์ หลายท่านพอเริ่มเรียนไปสักพักก็รู้สึกว่าอยากมีอุปกรณ์กลองชุดเอาไว้ซ้อมที่บ้านหรือไว้ไปเล่นข้างนอกกับเพื่อนๆ ซึ่งผมเองก็อยากแนะนำให้ทุกท่านที่เรียนตีกลองชุดมีอุปกรณ์เป็นของตัวเองเพราะจะได้ฝึกซ้อมหลังจากได้รับบทเรียนที่ได้จากชั่วโมงเรียน แต่ปัญหาคือแล้วอุปกรณ์ที่เราอยากได้ละคืออะไร หรืออุปกรณ์อะไรที่เหมาะกับเรามากที่สุด สำหรับนักเรียนของผมส่วนใหญ่ก็จะถามผมว่าอยากได้อุปกรณ์ต้องเลือกอย่างไร มีปัจจัยไหนบ้างในการเลือกซื้อให้เหมาะกับตัวเองมากที่สุด บางท่านอาจจะไปค้นหาในอินเตอร์เน็ตแล้วก็เจอว่าอุปกรณ์ที่เป็นกลองชุด มี 2 แบบ คือ Acoustic Drums (กลองชุด) กับ Electric Drums (กลองไฟฟ้า) ปรกติคนส่วนมากจะรู้จักกลองชุดปรกติกันอยู่แล้ว เนื่องจากพบเจอได้ใน คอนเสิร์ต มิวสิควีดีโอ และอื่นๆ แต่ “กลองไฟฟ้า” เนี่ยแหละที่บางคนถึงกับงงว่ามันคืออะไร และคำถามที่ผมเจอจากลูกศิษย์ของผมบ่อยมากๆนั่นคือ กลองไฟฟ้าคืออะไร, แตกต่างกับกลองชุดอย่างไรบ้าง, ราคาต่างกันไหม, อันไหนเหมาะกว่ากัน, ความรู้สึกในการตีเหมือนกันไหม และอื่นๆ แต่ถ้านักเรียนของผมผมก็จะพานักเรียนไปเลือกซื้อและแนะนำด้วยตนเองไดัรับกลองชุดที่อยากได้และเหมาะสมกลับบ้านอย่างแน่นอน แต่ถ้าท่านมือใหม่ท่านไหนที่กำลังอยากได้กลองชุดแรกเป็นของตัวเองบทความนี้มีคำตอบแน่นอนครับ รูป Drum Module (สมองกล) สิ่งที่แตกต่างกันระหว่าง “กลองชุด” กับ “กลองไฟฟ้า” คือ 1. วิธีใช้ -กลองไฟฟ้า ก็คือกลองชุดที่ใช้ไฟฟ้า เวลาตีกลองต้องสียบปลั๊กเปิดเครื่องเสียงถึงจะออกมาให้ได้ยินผ่านลำโพง (ลำโพงนี่ต้องซื้อแยกนะครับ ไม่ได้มาพร้อมกับกลองไฟฟ้า) -แต่ถ้าเป็นกลองชุดเวลาจะตีกลองก็ไม่ต้องเสียบปลั๊กสามารถตีได้เลยจะมีเสียงด้วยตัวเองอยู่แล้ว 2. แหล่งกำเนิดเสียง -กลองไฟฟ้าจะมีแหล่งกำเนิดเสียงมาจาก “สมองกล” ที่เรียกว่า Drum Module โดยเวลาที่เราตีไปที่แป้นกลองไฟฟ้า (ในที่นี้เราจะเรียกว่า “แพด”) แพดจะเป็นตัวรับน้ำหนักมือของผู้เล่นแล้วส่งสัญญาณผ่านสายสัญญาณไปหาสมองกล แล้วสมองกลก็จะส่งเสียงออกไปทางลำโพงเพื่อกำเนิดเสียง เช่น ถ้าเราตีดังตัวแพดก็จะส่งน้ำหนักมือของเราไปหาสมองกลให้รู้ว่าเสียงที่ออกมาต้องดังแล้วสมองกลก็จะส่งเสียงไปยังลำโพงดัง เป็นต้น -ส่วนกลองชุดก็ไม่มีอะไรมากเมื่อตีไปที่กลองดังเบาแค่ไหนก็จะตามน้ำหนักมือของเราเลย เพราะกลองแต่ละใบสามารถกำเนิดเสียงได้ด้วยตัวเองอยู่แล้ว 3. การปรับเสียง กลองไฟฟ้า เวลาปรับเสียงจะต้องปรับที่สมองกล ซึ่งเราจะต้องควบคุมคอนโทรลทุกอย่างจากตรงนี้ ไม่ว่าจะเป็นปรับความดัง, เปลี่ยนเสียง, เชื่อมต่อ Bluetooth, ปรับเสียงสูงเสียงต่ำ เป็นต้น ความอิสระในการปรับก็ขึ้นอยู่กับราคา และรุ่น ยิ่งแพงมากก็อิสระในการปรับได้มาก -ส่วนวิธีการปรับเสียงกลองชุดก็คือการใช้สิ่งที่เรียกว่า “กุญแจกลอง” ในการไขน็อตที่ยึดหนังกลองให้ตึง (เสียงสูง) หรือคลายน็อต (เสียงต่ำ) แล้วใช้หูฟังตามระดับเสียงที่เราต้องการ รูปกุญแจกลอง 4. ระดับความดัง
-กลองไฟฟ้าสามารถปรับระดับความดังได้จากสมองกล โดยสามารถหมุนลูกบิดตรงปุ่ม Volume ได้ ข้อดีของกลองไฟฟ้าเลยก็คือเราสามารถใช้ลำโพงก็ได้ หรือใช้หูฟังก็ได้ โดยเฉพาะหูฟังถ้าอยากซ้อมตอนดึกๆ ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะรบกวนเพื่อนบ้านเพราะเสียงจะอยู่ในหูฟังไม่ออกไปข้างนอก แต่ข้อควรระวังคือถ้าเราตีแพดดังมากๆก็อาจจะมีเสียงจากแพดหลุดออกไปได้ -สำหรับกลองชุดระดับความดังก็จะตามน้ำหนักมือของเราเลย ถ้าตีดังเสียงก็จะดัง ถ้าตีเบาเสียงก็จะเบา นี่ก็คือความแตกต่างหลักๆระหว่างกลองชุด กับกลองไฟฟ้า คราวนี้เรามาดูวิธีเลือกซื้อและสิ่งที่ต้องคำนึงว่าเราจะเลือกกลองแบบไหนให้เหมาะสมกับเรา ผมจะแบ่งเป็นข้อตามนี้นะครับ 1. สถานที่ตั้งกลอง บ้าน บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ คอนโด ที่ทำงาน หรืออื่นๆ เพราะกลองชุดเป็นเครื่องดนตรีที่ค่อนข้างเสียงดัง ถ้าเราสถานที่ที่ไม่รบกวนคนอื่นเช่น มีห้องเก็บเสียงที่บ้าน หรือบ้านเดี่ยวที่แต่ละบ้านอยู่ห่างกัน เป็นต้น ผมแนะนำซื้อกลองชุดเพราะกลองชุดจะให้ความเป็นธรรมชาติในเรื่องของเสียงและอารมณ์มากกว่ากลองไฟฟ้า แต่ถ้าบ้านไหนไม่สะดวกในการใช้เสียงดังผมแนะนำให้ซื้อกลองไฟฟ้า เพราะสามารถใช้หูฟังในขณะตีได้ทำให้ไม่ไปรบกวนผู้อื่น 2.ความรู้สึกในการตีกลอง อย่างที่ผมได้บอกไปตอนต้นว่ากลองไฟฟ้าจะกำเนิดเสียงจากสมองกล เพราะฉะนั้นตัวสมองกลก็จะมีการเขียนโปรแกรมเสียงมาจากทางผู้ผลิต โดยผู้ผลิตจะใส่รูปแบบเสียงกลองต่างๆให้เลือกลงไปในสมองกล อีกทั้งเรื่องน้ำหนักมือกลองไฟฟ้าถ้าไม่ใช่กลองไฟฟ้าที่ราคาสูงน้ำหนักมือก็อาจจะไม่เป็นไปตามที่เราต้องการ เพราะตัวแพดในแต่ละรุ่นก็จะมีขีดจำกัดในการรับน้ำหนักมือแตกต่างกันไปตามรุ่นต่างๆและราคา แต่ถ้าเป็นกลองชุดก็จะให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติสุดๆ เพราะเสียงที่เกิดขึ้นควบคุมด้วยหูและมือของเรา เราต้องการให้เสียงเป็นแบบไหนก็ควบคุมด้วยหูและมืออย่างเป็นอิสระ 3. การอัดเสียง ในยุคนี้การอัดทำคลิปวีดีโอถึงเป็นเรื่องสำคัญมาเพราะบางคนอยากทำเพลง บางคนอยากอัดคลิป Cover เอาลง Social Media และอื่นๆ ถ้าเป็นในเรื่องการอัดเสียงกลองไฟฟ้าจะสะดวกกว่ามาก เดี๋ยวผมจะมาอธิบายในบทความหน้าว่าสะดวกกว่าอย่างไร แต่ถ้าเป็นกลองจริงจะมีความยุ่งยากเป็นอย่างมากในการ Set Up อุปกรณ์อัดเสียง แต่คุณภาพเสียงที่ได้ถ้ามาจากกลองชุดจริงๆกลองจะให้ความเป็นธรรมชาติมากกว่า ก็ขึ้นอยู่กับว่าผู้ซื้อต้องการความสะดวก หรือคุณภาพของเสียง 4.ราคา สิ่งสำคัญมากๆในการเลือกซื้อกลองชุดหรือกลองไฟฟ้าก็คือ "ราคา" เพราะเราอยากได้กลองที่เหมาะกับเรา และราคาที่เหมาะสมด้วย ผู้ปกครองนักเรียนผมหลายคนถามผมว่า "ถ้าสมมุติว่าซื้อกลองราคาถูกๆมาลองก่อนเพราะว่าไม่รู้ว่าลูกจะเล่นจริงจังไหม" ผมก็จะตอบว่า ถ้าคุณพ่อหรือคุณแม่มีทุนทรัพย์พอจะซื้ออุปกรณ์ที่มียี่ห้อและดีๆหน่อยก็ควรซื้อ เพราะถึงตอนนั้นถ้ารู้ว่าลูกไม่ชอบจริงๆเราก็ยังขายต่อได้ (แต่ผมยังไม่เคยเจอนักเรียนที่เรียนกับผมขายกลองเพราะส่วนใหญ่เรียนกับผมยาวๆกันทุกคนเลยครับ555) แต่ถ้าเราซื้อราคาถูกๆแบบไม่มียี่ห้อ ถ้าลูกไม่ชอบนี่คือขายต่อยากมากแล้วถ้าขายไม่ออกก็ไม่รู้ว่าจะเอาไปวางที่ไหนด้วยครับ แต่เหนือสิ่งอื่นใดก็คือเราต้องดูที่งบประมาณเราด้วยว่าไหวที่เท่าไหร่ครับ ส่วนเรื่องราคาเปรียบเทียบระหว่างกลองชุดกับกลองไฟฟ้า ผมคิดว่าอาจจะเปรียบเทียบกันยากเพราะกลองชุดกับกลองไฟฟ้ามีข้อดีเฉพาะตัวคนละแบบเลย อยู่ที่ว่าความต้องการใช้งานจริงของเราเป็นแบบไหนซึ่งถ้าลองเช็คตามลิสที่ผมให้ไว้ด้านบนผมคิดว่าเราก็จะสามารถตอบตัวเองได้ว่าจริงๆแล้วเราต้องการแบบไหนกันแน่ คราวนี้เรามาดูกันว่า "กลองชุด" กับ "กลองไฟฟ้า" ราคาถูกหรือราคาแพงนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยอะไรบ้าง กลองชุด ราคาขึ้นอยู่กับวัสดุ Brand เนื้อไม้ รุ่น เสียงที่ตีออกมา ซึ่งถ้าจะให้ดีผมคิดว่าควรจะต้องหาโอกาสไปลองเสียงจริงก่อนซื้อสักครั้ง เพื่อให้รู้ว่าเสียงเป็นแบบนี้นะรูปร่างแบบนี้นะ แต่ถ้าฟังไม่ออกผมก็แนะนำให้เตรียมจำกัดงบประมาณไว้ก่อนที่จะไปถึงร้านแล้วเปรียบเทียบกลองชุดทั้งหมดที่ราคาใกล้เคียงกัน หรือถ้าในราคาที่เราเตรียมไว้ในตอนแรกรู้สึกว่ายังไม่ถูกใจก็ค่อยขยับราคาขึ้นอีกที แต่ควรเตรียมงบประมาณไว้ในใจก่อน กลองไฟฟ้า ราคาขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของตัวสมองกลและแพด ซึ่งต้องบอกว่ากลองไฟฟ้ามีต้นแบบมาจากกลองชุด เพราะฉะนั้นเป้าหมายของกลองไฟฟ้าก็คือให้เสียงที่เป็นธรรมชาติมาที่สุด และน้ำหนักมือที่เป็นธรรมชาติมากที่สุด เพราะถ้าวันนึงเราต้องเปลี่ยนไปตีกลองชุดจะได้เปลี่ยนมาได้โดยที่ไม่ต้องปรับอะไรมาก แต่ถ้ากลองไฟฟ้าที่รุ่นต่ำมากๆ เวลาที่เด็กฝึกกลองไฟฟ้ารุ่นต่ำๆมาตั้งเริ่มอาจจะมีผลต่อการเปลี่ยนมาตีกลองชุดจริงได้ เพราะเรื่องของความรู้สึกเวลาตีกลองที่ผมได้กล่าวไปแล้วในข้างต้นนั้นเอง แต่จริงๆก็ไม่ได้มีผลอะไรมากแค่ต้องใช้เวลาซ้อมเพื่อที่จะเปลี่ยนความรู้สึกจากกลองไฟฟ้ามาเป็นกลองจริงนึดนึงก็สามารถเปลี่ยนได้เป็นธรรมชาติแล้ว เพราะฉะนั้นซื้อตามที่กำลังเราไหวเถอะครับ เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับบทความนี้ค่องข้างยาวทีเดียวแต่ก็น่าจะเป็นไอเดียให้กับหลายท่านเลยใช่ไหมครับ ลองเช็คลิสที่ผมให้แล้วลองเทียบกับตัวเองดูว่าเราเหมาะหรือมีข้อจำกัดของเราแบบไหนกันบ้าง เช่น เรื่องสถานที่ตั้งกลอง เป็นต้น แล้วอย่าลืมตั้งงบประมาณไว้ในใจก่อนนะครับ จะได้สามารถเปรียบเทียบอุปกรณ์จากที่เราตั้งงบประมาณไว้ถ้าอุปกรณ์ยังไม่ถูกใจก็ค่อยขยับงบประมาณขึ้นไปอีกได้นะครับ สุดท้ายนี้ผมหวังว่าทุกท่านคงได้ประโยชน์จากบทความนี้ ถ้าใครชอบบทความนี้ผมรบกวนขอคนละ Like หรือ Share บทความนี้เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมด้วยนะครับ แล้วบทความหน้าผมยังมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องการสอนตีกลองอีกมากมาย ถ้าใครสนใจเรื่องการตีกลอง ฝากติดตามบทความของผมด้วยนะครับ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านและกด Like กด Share ให้ครับผม ส่วนใครที่สนใจเรียนตีกลองกับครูเอิร์ธที่โรงเรียน Ongartdrums School ก็สมัครเข้ามาได้ตลอดนะครับ รับรองว่าจะแนะนำและพาไปเลือกซื้อกลองด้วยแน่นอนครับผม สมัครเรียนตีกลองได้ตามลิ้งนี้เลยครับผม www.ongartdrums.com/contact
0 Comments
Leave a Reply. |